วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559



*****************************************

HIPEC

HIPEC คืออะไร?



สวัสดีครับท่านผู้อ่านบล็อกเรื่องของผู้หญิงผู้หญิงที่รักทุกๆท่าน หมอหยุดเขียนบล็อกไประยะหนึ่งเพราะมีงานเข้าเยอะเลยโดยเฉพาะงานเกี่ยวกับการผ่าตัดทางนรีเวชฯซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับเนื้องอกมดลูก (Myoma uteri) ช็อกโกแล็ตซิสต์ (Chocolate cyst) หรือไม่ก็เรื่องก้อนของรังไข่ (Ovarian tumor) ซึ่งหมอก็ได้เขียนเอาไว้ในบล็อกก่อนหน้านี้ไปบ้างแล้ว... วันนี้หมออยากเล่าเรื่องการรักษาแบบหนึ่งที่ค่อนข้างมีที่ใช้น้อยแต่สามารถช่วยผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งได้ เรื่องนั้นก็คือเรื่อง HIPEC ครับ

HIPEC หรือที่อ่านว่า "ไฮเป็ก" เป็นชื่อย่อของการรักษาผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งที่มีการกระจายของมะเร็งอยู่ทั่วไปในช่องท้อง ตัวอย่างเช่น มะเร็งรังไข่ (Ovarian cancer) และมะเร็งของลำใส้ใหญ่ (Colon cancer) ... HIPEC เป็นชื่อย่อครับ สำหรับชื่อเต็มๆของ HIPEC คือ Hyperthermic Intra-PEritoneal Chemotherapy ครับ

ที่อยากเล่าเรื่องนี้ก็เพราะเมื่อราวเดือนเศษๆที่ผ่านมานี้หมอมีคนไข้มะเร็งรังไข่รายหนึ่งที่ผ่านการผ่าตัดช่องท้องมาแล้ว 5 ครั้ง ..... คนไข้รายนี้มาพบหมอด้วยเรื่องท้องโตและแน่นอึดอัดในช่องท้องมากจนไม่สามารถนอนได้ หายใจก็ไม่สะดวก ทานอาหารก็ไม่ค่อยได้ ได้รับความทุกข์ทรมานมากครับ .....​ การตรวจร่างกายพบว่าคนไข้มีลักษณะซูบผอมมาก มีท้องโตเหมือนคนตั้งครรภ์เกือบครบกำหนด ผลการตรวจ CT scan ที่ช่องท้อง พบว่ามีของเหลวจำนวนมากอยู่ในช่องท้อง .....​ ได้รับการวินิจฉัยในเบื้องต้นว่าเป็น Pseudomyxoma peritonei หรือภาวะที่มีมูกเหนียวข้นในช่องท้องจำนวนมาก ซึ่งมูกเหนียวข้นจำนวนมากนี้จะกระจายอยู่เต็มช่องท้องตั้งแต่เหนือตับลงมาถึงกระเพาะอาหาร ลำใส้เล็กและลำใส้ใหญ่ ไล่ลงมาจนถึงช่องท้องส่วนล่างได้เแก่รอบๆกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะทั้งหลายในอุ้งเชิงกราน

ภาพ CT scan ของช่องท้อง แสดงถึงภาวะที่มีมูกเหนียวข้นอยู่เต็มช่องท้อง


ภาพมูกเหนียวข้นที่พบในผู้ป่วย Pseudomyxoma Peritonei

มูกเหนียวข้นในภาวะ Pseudomyxoma peritonei นี้ไม่สามารถเจาะดูดออกมาได้หรอกครับเพราะมีความเหนียวข้นมาก ทำให้คนไข้มีท้องโตขึ้นเรื่อยๆและจะแน่นท้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง ..... ที่ผ่านมาการผ่าตัดรักษาในภาวะดังกล่าวทำได้ยากมากและมีอันตรายสูง ..... ทำให้การรักษาที่ทำกันมาก่อนหน้านี้มักเป็นการรักษาแค่ตามอาการเท่านั้น .....​ คนไข้จะค่อยๆขาดอาหารและผอมลงอย่างมากในขณะที่ท้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ..... ในที่สุดก็จะเสียชีวิตลงท่ามกลางความทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง

มูกเหนียวข้นที่ติดอยู่ตามผนังช่องท้อง ผิวนอกของตับ ลำใส้ และอวัยวะต่างๆในช่องท้อง


ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ในระดับสากล .....​ มีกลุ่มศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้คิดค้นและเริ่มต้นทำการรักษาผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากภาวะดังกล่าวด้วยการผ่าตัดแบบถอนรากถอนโคนคือพยายามผ่าตัดเลาะเอาก้อนเนื้องอกหรือมูกเหนียวข้นดังกล่าวออกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้หรือที่ศัพท์ในการผ่าตัดทางการแพทย์เรียกว่า CRS (Cyto-Reductive Surgery) ร่วมกับการให้ ยาเคมีบำบัดร้อน (Heated Chemotherapy) เข้าไปโดยตรงในช่องท้องทันทีหลังการทำ CRS ...... การให้ยาเคมีบำบัดร้อนเข้าไปโดยตรงในช่องท้องเพื่อให้ยาได้สัมผัสโดยตรงกับรอยโรคนี่แหละครับที่เรียกกันว่า HIPEC ซึ่งจะทำร่วมกับ CRS


ในกรณีของผู้ป่วยที่หมอเล่ามาในเบื้องต้น .....​ หลังจากที่หมอได้ให้คำปรึกษาและให้รายละเอียดเรื่อง CRS + HIPEC ไปกับผู้ป่วยและบุคคลในครอบครัวทั้งในแง่ของประโยชน์ที่ได้รับ ความยากของการผ่าตัด ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดอันตรายได้หลายอย่างเช่น การตกเลือด การบาดเจ็บต่ออวัยวะต่างๆในช่องท้อง หรือแม้แต่อันตรายที่อาจถึงขั้นเสียชีวิต

ภาพแสดงแนวการผ่าตัดเปิดหน้าท้องในการผ่าตัดแบบ CRS

ภาพแสดงขณะที่แพทย์กำลังผ่าตัดมูกเหนียวข้นออกจากช่องท้องในการผ่าตัดแบบ CRS


ภาพแสดงการใส่สายยางเพื่อให้ยาเคมีบำบัดร้อนเข้าและออกจากช่องท้องในการทำ HIPEC

ในที่สุด ..... เมื่อสัปดาห์เศษๆที่ผ่านมาผู้ป่วยและครอบครัวก็ได้ตัดสินใจขอเข้ารับการรักษาตามที่หมอแนะนำคือ การทำผ่าตัดแบบถอนรากถอนโคนตามด้วยการให้ยาเคมีบำบัดร้อนเข้าในช่องท้อง (CRS + HIPEC) ..... หมอเองในฐานะแพทย์ผ่าตัดทางมะเร็งนรีเวชฯจึงได้ทำการเตรียมการรักษาโดยเริ่มด้วยการผ่าตัดร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางศัลยกรรม ..... ใช้เวลาในการทำผ่าตัดประมาณ 7 ชั่วโมง โดยเป็นการผ่าตัด CRS นานประมาณ 5 ชั่วโมงเศษ และในการทำ HIPEC อีกประมาณ 2 ชั่วโมง ..... พบว่าการผ่าตัด CRS ครั้งนี้สามารถผ่าเอามูกเหนียวข้นออกจากช่องท้องได้มากถึงประมาณ 6,000 มิลลิลิตรหรือ 6 ลิตร และผ่าตัดชิ้นเนื้ออันประกอบด้วย เยื่อบุช่องท้อง เยือหุ้มตับ และลำใส้บางส่วนที่สูญเสียการทำงานเพราะมีมูกจำนวนมากไปเกาะอยู่อย่างเหนียวแน่น รวมเป็นเนื้อเยื่อที่ตัดออกมาอีกไม่รวมมูกเหนียวมีนำ้หนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม ..... การผ่าตัดครั้งนี้มีการนำลำใส้มาเปิดเป็นทวารเทียมไว้ด้วย ..... ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจเพราะคาดว่าสามารถผ่าตัดรอยโรคออกมาได้ประมาณ 95% ..... หลังการผ่าตัด CRS ได้มีการวางสายยางไว้เป็นทางเข้าและออกของยาเคมีบำบัดแล้วจึงเย็บปิดหน้าท้องและได้ทำการรักษาต่อทันทีด้วยการทำ HIPEC หรือยาเคมีบำบัดร้อนที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ 42 องศาเซลเซียส โดยให้ยาวนผ่านเข้าออกในช่องท้องอีกนานประมาณ 90 นาที ..... หลังผ่าตัดผู้ป่วยในรับการดูแลต่อใน ICU หรือห้องผู้ป่วยอาการหนักอีกหนึ่งวันแล้วย้ายออกมาดูแลได้ในห้องพักตามปกติ

นับถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์เศษ ..... ผู้ป่วยอาการดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีไข้ เริ่มทานอาหารอ่อนได้ ปัสสาวะได้เอง สามารถนอนหลับได้โดยไม่มีอาการแน่นท้อง ทวารเทียมทำงานได้ดี รอการดูแลต่อไปซึ่งคาดว่าน่าจะกลับบ้านได้ในไม่นานนี้

ที่เล่ามาทั้งหมดก็เป็นเพียงแบบคร่าวๆและก็เป็นเรื่องที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี้เองนะครับ ..... ยังคงต้องรอดูผลการรักษาในระยะยาวกันอีกต่อไปครับ ..... เรื่อง CRS และ HIPEC แม้พบไม่บ่อยแต่อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนใหนก็ได้ ..... หมอหวังว่าอย่างน้อยท่านผู้อ่านก็คงพอได้รู้จักคำว่า CRS และ HIPEC บ้างในระดับหนึ่ง .....​ ซึ่งหากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสพบผู้ป่วยที่มีความทุกข์ทรมานในทำนองนี้ จะได้พอมีคำแนะนำให้เขาเหล่านั้นได้บ้างหรืออาจแนะนำให้โทรศัพท์มาถามหมอได้โดยตรงครับ

หมอขอจบเรื่องเล่าวันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ .....​ ขอให้ท่านผู้อ่านบล็อกเรื่องของผู้หญิงผู้หญิงทุกท่านโชคดีและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง .....​ สวัสดีครับ



รศ.นพ. วิรัช วุฒิภูมิ
สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ-หาดใหญ่
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
mobile: 089-733-1170

******************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น